![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
![]() ![]() |
|
|
red tide เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดจาก การเพิ่มจำนวนประชากรอย่างมหาศาล ของสาหร่ายเซลล์เดียวในทะเล หรือที่รู้จักกันดีว่าคือ algae bloom จำนวนประชากรของสาหร่ายเซลล์เดียวที่มากมาย ทำให้เห็นน้ำทะเลเป็นสีแดง
สาหร่ายเซลล์เดียวที่ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ red tide โดยมากเป็นสาหร่ายเซลล์เดียวกลุ่ม dinoflagellate สาหร่ายเซลล์เดียวกลุ่มนี้มีหางช่วยในการเคลื่อนที่ในน้ำ มักจะมีคลอโรฟิลด์สำหรับสังเคราะห์แสง และพวกมันก็จะผลิตสารพิษออกมาด้วย
โดยทั่วไป สาหร่ายเซลล์เดียวพวกนี้จะสืบพันธุ์โดยการแบ่งตัว แต่ในยามที่อาหารขาดแคลน บางชนิดสามารถเปลี่ยนไปสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ ซึ่งจะทำให้การเพิ่มของจำนวนประชากร เป็นไปได้ช้าลง หลาย ๆ ชนิดมีช่วงชีวิตหลายขั้นตอน มันอาจซ่อนตัวอยู่ในโคลนที่ก้นทะเล รอจนกระทั่งสภาวะเหมาะสม แล้วค่อยโผล่ออกมาก็ได้
สาหร่ายเซลล์เดียวบางชนิดที่ก่อให้เกิด red tide (จากซ้ายไปขวา)
Certatium Gymnodinium Protoperidinium
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนบอกว่า red tide แผ่ขยายออกไปมากขึ้น dinoflagellate ที่มีพิษได้เพิ่มจาก 22 ชนิด เป็น 55 ชนิดทั่วโลก ในทศวรรษที่ผ่านมา ปรากฏการณ์ได้ขยายจากยุโรป และสหรัฐอเมริกา ไปยังเอเชีย และทวีปอเมริกาใต้
สำหรับเหตุผลในการขยายขอบเขตของปรากฏการณ์นี้ ไปยังส่วนต่าง ๆ ของโลก มีคำอธิบายอยู่ 3 ประการคือ
สิ่งที่ควรรู้อีกอย่างก็คือ คำว่า algae bloom หรือ red tide จะทำให้นึกว่า เป็นการเพิ่มของประชากรสาหร่ายเซลล์เดียวอย่างมาก จนเรามองเห็นเป็นสีแดงได้ แต่ที่จริงแล้ว สาหร่ายเซลล์เดียวก็มีเม็ดสีอื่น ๆ จนบางครั้ง เราจะเห็นเป็นสีอื่น ๆ รวมทั้งไม่มีสีเลยก็มี นอกจากนั้น ประชากรสาหร่ายเซลล์เดียวเพียงไม่กี่เซลล์ต่อลิตร ก็ก่อให้เกิดสารพิษได้เช่นกัน
ไปหน้า
1 - เปิดเรื่อง
2 - Red Tide คืออะไร ?
3 - กลไกของ Red Tide
4 - ผลกระทบของ Red Tide
5 - เราควรทำอย่างไร ?
6 - แหล่งข้อมูล