|
|
|
ท่องสุริยะ
ดวงอาทิตย์ | ดาวพุธ | ดาวศุกร์ | โลก | ดาวอังคาร | ดาวพฤหัสบดี | ดาวเสาร์ | ดาวยูเรนัส | ดาวเนปจูน | ดาวพลูโต | ดาวหาง | ดาวเคราะห์น้อย |
|
ดวงอาทิตย์ พระอาทิตย์ ตะวัน สุริยา เป็นชื่อของดาวฤกษ์ประจำระบบสุริยะของเรา เป็นวัตถุใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในระบบนี้ มวลรวมของระบบสุริยะของเรานั้น 98 เปอร์เซ็นต์ได้มาจากมวลของดวงอาทิตย์นี่เอง แรงดึงดูดของดวงอาทิตย์เป็นตัวการทำให้ดาวเคราะห์ทั้งหลายโคจรอยู่รอบ ๆ ดวงอาทิตย์เป็นผู้มอบพลังงานเกือบทั้งหมดที่เราใช้บนโลก ขนาดหน้าตัดของดวงอาทิตย์ใหญ่กว่าขนาดหน้าตัดของโลก 100 เท่า และต้องใช้โลกถึง 1.3 ล้านใบเพื่อเติมเนื้อในของดวงอาทิตย์ให้เต็ม ชั้นนอกสุดของดวงอาทิตย์เรียกว่า โฟโตสเฟียร์ และมีอุณหภูมิประมาณ 6,000 องศาเซลเซียส ชั้นนี้จะมีลักษณะเหมือนเป็นริ้วระลอกเนื่องจาก ความปั่นป่วนของกระแสพลังงานที่ระเบิดอยู่ตลอดเวลาที่พื้นผิว
พลังงานของดวงอาทิตย์เกิดขึ้นอยู่ภายในแกนกลางของดวงอาทิตย์ ที่ซึ่งมีอุณหภูมิประมาณ 15,000,000 องศาเซลเซียส และมีความดันมากกว่าความดันอากาศ ณ ระดับน้ำทะเลของโลกถึง 340 พันล้านเท่า ณ สภาพเช่นนี้ทำให้เกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์แบบรวมตัว โปรตอนของไฮโดรเจน 4 ตัว หลอมรวมตัวกันเกิดเป็นอนุภาคอัลฟาหรือนิวเคลียสของฮีเลียมซึ่งมีมวลน้อยกว่าโปรตอนทั้งสี่ประมาณ 0.7 เปอร์เซ็นต์ มวลที่หายไปได้แปรสภาพเป็นพลังงาน และเคลื่อนตัวมายังผิวดวงอาทิตย์ด้วยกระบวนการพาความร้อน แล้วจึงปลดปล่อยออกมาเป็นแสงและความร้อน
พลังงานจากใจกลางของดวงอาทิตย์ต้องใช้เวลานับล้านปี เพื่อเคลื่อนตัวไปถึงผิวของดวงอาทิตย์ ทุก ๆ วินาทีจะมีไฮโดรเจนเปลี่ยนเป็นฮีเลียมราว 700 ล้านตัน และปลดปล่อยพลังงานบริสุทธิ์ออกมา 5 ล้านตัน มวลของดวงอาทิตย์จึงลดลงตลอดเวลา
พื้นผิวของดวงอาทิตย์มักจะมีส่วนที่มืด ๆ ปรากฏ พื้นที่มืดนี้เราเรียกว่า จุดดับบนดวงอาทิตย์ เป็นจุดที่มีความร้อนแต่ร้อนน้อยกว่าส่วนอื่น ๆ ของดวงอาทิตย์ มันจึงดูมืดกว่าส่วนที่เหลือ จุดดับบนดวงอาทิตย์เหล่านี้มีขนาดใหญ่กว่าโลกของเราทั้งใบเสียอีก
ในบางครั้งก็จะมีลำก๊าซร้อนพวยพุ่งออกมาจากดวงอาทิตย์ พวยก๊าซร้อนนี้บางครั้งก็ตกกลับลงสู่ดวงอาทิตย์ บางครั้งก็เคลื่อนตัวหลุดออกมา ไกลขนาดที่มาถึงโลกของเราได้เลย
ดูเหมือนว่าดวงอาทิตย์มีชีวิตอยู่มานานถึง 4.6 พันล้านปีแล้ว และยังคงมีเชื้อเพลิงมากพอให้เปลี่ยนเป็นพลังงานอีก 5 พันล้านปีเป็นอย่างน้อย ในช่วงสุดท้ายของดวงอาทิตย์ ดวงอาทิตย์จะเปลี่ยนไปอาศัยฮีเลียมในการหลอมรวมตัว และมีขนาดใหญ่ขึ้น พองออกมาจนมาถึงวงโคจรของโลก จึงกลืนกินโลกเข้าไปได้ หลังจากพันล้านปีผ่านไป ดวงอาทิตย์ (ซึ่งในสภาพนั้นเรียกว่า ยักษ์แดง หรือ red giant) ก็จะหดกลับลงอย่างทันใดกลายเป็น ดาวแคระขาว (white dwarf) ซึ่งเป็นวาระสุดท้ายจริง ๆ ของดาวฤกษ์เช่นดวงอาทิตย์ และคงใช้เวลาอีกนับเป็นล้านล้านปีจึงจะเย็นลงอย่างสมบูรณ์
ข้อมูลทั่วไปของดวงอาทิตย์ | |
---|---|
มวล (กิโลกรัม)) | 1.989 x 10 30 |
มวลเทียบกับโลก (โลก = 1) | 332,830 |
รัศมีที่เส้นศูนย์สูตร (กิโลเมตร) | 695,000 |
รัศมีที่เส้นศูนย์สูตร (โลก = 1) | 108.97 |
ความหนาแน่นเฉลี่ย (กรัม/ลูกบาศก์เซ็นติเมตร) | 1.410 |
คาบการหมุนรอบตัวเอง (วัน) | 25-36* |
ความเร็วหลุดพ้น (กิโลเมตรต่อวินาที) | 618.02 |
อุณหภูมิเฉลี่ยที่พื้นผิว | 6,000 oC |
อายุ (พันล้านปี) | 4.5 |
องค์ประกอบเคมี
| 92.1 % 7.8 % 0.061 % 0.030% 0.0084% 0.0076% 0.0037 0.0031% 0.0024% 0.0015% 0.0015% |
* คาบการหมุนของดวงอาทิตย์ที่พื้นผิว แปรผันอยู่ในช่วง 25 วันที่เส้นศูนย์สูตร ถึง 36 วันที่ขั้วดาว ลึกลงไปใต้พื้นผิว คาบการหมุนที่จุดต่าง ๆ จะประมาณ 27 วัน
ดวงอาทิตย์ | ดาวพุธ | ดาวศุกร์ | โลก | ดาวอังคาร | ดาวพฤหัสบดี | ดาวเสาร์ | ดาวยูเรนัส | ดาวเนปจูน | ดาวพลูโต | ดาวหาง | ดาวเคราะห์น้อย |