ภารกิจเสริมของฝนหลวง

นอกจากจะใช้ฝนหลวงในการช่วยเหลือพื้นที่เกษตรกรรมในภาวะแห้งแล้งแล้ว เรายังสามารถนำฝนหลวงไปใช้ในกิจการต่าง ๆ ได้อีกหลายประการ ซึ่งภารกิจเหล่านั้นไม่ใช่ภารกิจหลัก ถือได้ว่า เป็นการทดลองนำไปใช้ในงานอื่น ๆ ซึ่งก็มีการใช้ในงานเหล่านี้

1. ใช้เพิ่มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค
2. ใช้เพิ่มปริมาณน้ำจืดเพื่อผลักดันน้ำเค็มลงทะเลไป
3. ใช้เพิ่มปริมาณน้ำเหนือเขื่อนสำหรับการผลิตไฟฟ้า ตัวอย่างที่เคยทำก็เช่นในปีพ.ศ.2531 ในวิกฤตการณ์น้ำในเขื่อนภูมิพล ก็มีการใช้ฝนเทียมเพิ่มปริมาณน้ำเป็นเวลา 5 เดือน และก็ได้ผลดี แต่เสียค่าใช้จ่ายไป 9 ล้านบาท
4. ใช้หยุดยั้งการระบาดของโรค เคยมีการใช้ฝนหลวงหยุดการระบาดของโรคอหิวาตกโรคในเขตกรุงเทพฯ เมื่อปีพ.ศ.2516 การทำฝนเทียมในกรุงเทพฯไม่ใช่เรื่องยากนัก เพราะความร้อนจากถนน และตึก ช่วยในการยกตัวของอากาศได้ดี แถมฝุ่นผงในกรุงเทพฯ ยังเป็นแกนอากาศชั้นดีเสียด้วย ฝนที่ตกลงมาในตอนนั้น ทำให้สิ่งสกปรกถูกชะล้างออกไป ประชาชนมีน้ำสะอาดใช้ และนั่นเป็นปีเดียวที่มีการทำฝนเทียมในกรุงเทพฯ
5. ใช้ระงับอัคคีภัย เมื่อวันที่ 9 เมษายน พ.ศ.2533 มีไฟไหม้ใหญ่ใจกลางเมืองจันทรบุรี คณะฝนหลวงหน่วยที่ 1 ได้พยายามทำฝนเทียมเพื่อดับไฟนั้น แต่ปรากฏว่า ความร้อนจากไฟมีมากเกินไป ฝนหลวงไม่ตกที่เป้าหมาย แต่เลยไปตกห่างออกไป 2 กิโลเมตร นอกจากนั้น เหตุการณ์ไฟไหม้ป่าในอินโดนีเซีย เมื่อปี พ.ศ.2540 ก็มีการร้องขอความช่วยเหลือเรื่องฝนหลวงด้วย เพื่อไปใช้ในการขับไล่หมอกควันต่าง ๆ รวมทั้งช่วยในการดับไฟป่า โดยสำนักฝนหลวงได้ไปช่วยเหลือในระหว่างวันที่ 12-27 ธันวาคม 2540 โดยไปศึกษาข้อมูลสำหรับการทำฝนหลวงว่าจะเป็นไปได้หรือไม่
6. ใช้ความรู้ในการโปรยสารเคมี ไปยับยั้งไม่ให้ฝนตก กรณีนี้สามารถนำมาใช้ป้องกันน้ำท่วม โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ ได้โดยหลักการ จากประสบการณ์ของเจ้าหน้าที่ฝนหลวง ทำให้มั่นใจว่า สามารถยับยั้งฝนประเภทที่เกิดจากมวลอากาศร้อนลอยตัวขึ้นสูงได้ แต่ก็ไม่เคยทดลองทำเพราะอยู่นอกเหนืออำนาจที่จะทำได้ บางทีนี่อาจเป็นอีกประโยชน์ที่น่าจะลองดู

ไปหน้า
1 - เปิดเรื่อง
2 - ความเป็นมาของฝนหลวง
3 - การทำฝนหลวงในประเทศไทย
4 - สภาพอากาศที่เหมาะสมในการทำฝนหลวง
5 - เตรียมความพร้อมก่อน
6 - สร้างฝนกันเสียที
7 - แผนปฏิบัติการฝนหลวง
8 - ภารกิจเสริมของฝนหลวง
9 - ฝนมีค่า น้ำมีคุณ